ประวัติศาสตร์ก่อตั้งโบสถ์

พระสังฆราชและเณรที่บ้านเณรบางนกแขวก บางคณฑี สมุทรสงคราม ปี ค.ศ.1932

 

           เรื่องราวของวัดพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ศรีราชา เริ่มต้นในช่วงปี พ.ศ.2415 (ค.ศ.1872) ในยุคสมัยมิสซังไทย (พ.ศ.2415 – 2477) มีการตั้งบ้านเณรเล็กที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคณฑี สมุทรสงคราม ใช้ชื่อว่า บ้านเณรพระหฤทัยแห่งพระเยซู” ก่อตั้งโดยพระสังฆราช ฌอง หลุยส์ เวย์ จุดประสงค์การก่อตั้งคือการเผยแผ่ศาสนาและการอบรมพระสงฆ์

 

         

บ้านเณรพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคณฑี สมุทรสงคราม

 

          ต่อมาในปี พ.ศ.2473 (ค.ศ.1930) ได้มีการตั้งมิสซังราชบุรี (มิสซังย่อมาจากคำว่าสังฆมณฑล) โดยแยกมิสซังไทยออกเป็นมิสซังกรุงเทพฯ และมิสซังราชบุรีโดยมีขอบเขตการดูแลครอบคลุมภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดราชบุรีลงไป ทำให้มีการย้ายบ้านเณรไปตั้งถิ่นใหม่ที่ศรีราชา

          มีเรื่องเล่าในช่วงระหว่างที่ทำการย้ายบ้านเณร ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2477 (ค.ศ.1934) เหล่าอาจารย์และเณรใหญ่ใช้เวลาไปกับการเก็บข้าวของภายในบ้านเณรให้เป็นหมวดหมู่ สัมภาระส่วนใหญ่จะเป็นตำราคำสอนและเฟอร์นิเจอร์ไม้หลายชิ้น

          จนกระทั่งวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2477 (ค.ศ.1934) ซึ่งตรงกับวันคริสตมาส เวลา 7.00 น. ได้มีเรือ Q.A.18 และเรือลากจูงไม้แม็กคิงตอช เป็นพาหนะทางน้ำสำหรับการเดินทางไปศรีราชา แล่นออกจากวัดคาทอลิก บางนกแขวก มีพระสงฆ์และสัตบุรุษเป็นจำนวนมากยืนโบกมืออำลาสมาชิกบนเรือ ซึ่งประกอบไปด้วย คุณพ่อมอรีส การ์ตอง อธิการ, คุณพ่อโรเชอโร่ อาจารย์, ครูเณรสองคนคือ คุณครูเศียร โชติพงศ์ กับคุณครูกิมฮั้ง แซ่เล้า, ภคิณีสามคน คือฟิโลแมน โรซารี และกอแลคตา กับแม่ครัว เณรใหญ่เล็กรวม 90 ชีวิต

 

อธิการบ้านสามเณร คุณพ่อมอรีส การ์ตอง (ค.ศ.1875 - 1948)

 

        เรือทั้งสองลำ แล่นไปตามแม่น้ำกลองออกสู่อ่าวไทย มุ่งหน้าไปที่เกาะลอย ศรีราชา คาดการณ์ว่าจะถึงก่อนสี่โมงเย็น แต่มาถึงจริง ๆ เวลาหนึ่งทุ่ม เกินเวลาไปอย่างน้อยสามชั่วโมง เพราะระหว่างแล่นเรือมีคลื่นลมแรงผิดปกติและกระแสน้ำเชี่ยว เมื่อถึงเกาะลอยก็ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อให้คนบนเรือขึ้นฝั่งเกาะลอย ที่สุดเวลาสามทุ่ม ทุกคนขึ้นจากเรือได้โดยปลอดภัย พร้อมด้วยสัมภาระที่จำเป็น เริ่มเคลื่อนขบวนเดินทางจากเกาะลอย เดินตามสะพานรางรถไฟจนถึงฝั่งศรีราชา ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร และเดินต่อไปตามทางเกวียนอีกอย่างน้อย 3 ถึง 4 กิโลเมตร จึงถึงบ้านเณรพระหฤทัยแห่งพระเยซู แห่งใหม่ในศรีราชา     

 

ภาพถ่ายจากมุมเขาชากแขก บริเวณทางเข้าค่ายวชิราวุธ ศรีราชา

ในภาพเกาะลอยอยู่ขวามือ ตรงกลางซ้ายทุ่งคืออาคารไม้บ้านเณรสองชั้น และตึกเรียนสามเณรเซมินาริอุม

Credit : Robert L. Pendleton บันทึกเมื่อ ค.ศ.1935 (พ.ศ.2478)

 

          บ้านเณรในตอนนั้น มีเพียงอาคารไม้ 2 ชั้น ถูกแบ่งเป็น บ้านเณร ห้องอาหาร ห้องเรียน และวัดน้อยสำหรับคริสตชนในรุ่นแรก ๆ มีชื่อว่า “วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้าศรีราชา” มีคุณพ่อมอริส การ์ตอง เป็นเจ้าอาวาสวัดองค์แรก มีการขยายพื้นที่โดยการก่อสร้างตึกเซมินาริอุม(Seminarium ss Cordis Jesu) ขึ้นในปี พ.ศ.2478 (ค.ศ.1935) เพื่อใช้ในการศึกษาอบรมแก่สามเณรทั้งสองมิสซัง ได้แก่ มิสซังกรุงเทพฯ และมิสซังลาว

 

 ตึกเรียนสามเณรเซมินาริอุม (Seminarium ss Cordis Jesu)

 

ตึกเรียนสามเณรเซมินาริอุม (Seminarium ss Cordis Jesu) ค.ศ.1937

 

          พ.ศ.2483 (ค.ศ.1940) เกิดกรณีพิพาทอินโดจีน ต้องปิดบ้านเณรที่ศรีราชา เณรบางส่วนเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่บ้านเณร บางนกแขวก จนเวลาผ่านไปใน พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) สิ้นสุดสงคราม บ้านเณรศรีราชา กลับมาเปิดอีกครั้งโดยมีพระคุณเจ้า สงวน สุวรรณศรี เป็นอธิการ พร้อมทั้งเหตุการณ์สำคัญมีการก่อตั้งมิสซังจันทบุรีซึ่งแยกตัวออกจากมิสซังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) โดยบ้านเณรศรีราชา ยังเป็นของมิสซังกรุงเทพฯ ใช้งานร่วมกันทั้งสองมิสซังอยู่

 

พระสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ สงวน สุวรรณศรี (ค.ศ.1909 - 1983)

 

          ในขณะเดียวกัน โรงเรียนดาราสมุทร โดยคุณยอห์น ลาร์สันต์ (ประยูร สิริสันต์) เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงเรียน ได้ทำการย้ายที่ตั้งโรงเรียนดาราสมุทรจากเดิมที่เดียวกันกับโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา มาตั้งที่บริเวณสามเณราลัยพระหฤทัย ศรีราชา มีการสร้างอาคารทรงปั้นหยาตัวเรือนมุงด้วยจาก สำหรับใช้เป็นห้องเรียนชั่วคราว ภายหลังคุณประยูร ได้โอนกิจการโรงเรียนดาราสมุทรให้แก่มิสซังจันทบุรี โดยมีพระคุณเจ้าสงวน สุวรรณศรี เป็นผู้รับมอบ

นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 รุ่นที่ 2 ปีการศึกษาพุทธศักราช 2503 โรงเรียนดาราสมุทร

 

          พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) พระคุณเจ้าสงวน ได้สร้างอาคารไม้ 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นโรงเรียนดาราสมุทร ชั้นบนเป็นวัดคาทอลิกชื่อ “วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า” นับเป็นวัดหลังแรกอย่างเป็นทางการ

 

วันตรุษจีน วัดพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ศรีราชา หลังแรก ค.ศ.1957

ภาพจากหนังสือ "อนุสรณ์วัดหลังที่ 2 วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า ศรีราชา"

 

          พ.ศ.2505 (ค.ศ.1962) ในสมัยคุณพ่อบุญยง วรศิลป์ เจ้าอาวาสวัดพระหฤทัยฯ องค์ที่ 4 ได้ของบประมาณเพื่อสร้าง วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้าหลังที่สอง มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2507 (ค.ศ.1964)

 

          

พิธีวางศิลาฤกษ์โบสถ์หลังที่ 2 7 มิถุนายน ค.ศ.1964 (พ.ศ.2507)

 

วัดพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ศรีราชา หลังที่ 2 (ค.ศ.1964 - 2013)

 

          ราว พ.ศ.2556 (ค.ศ.2013) ในสมัยเจ้าอาวาสวัดคุณพ่อวิเชียร ฉันทพิริยกุล ได้ริเริ่มโครงการสร้างวัดพระหฤทัยฯ ใหม่เป็นหลังที่สาม แทนวัดหลังเก่าเพราะตัวอาคารทรุดโทรมมาก มีการจัดมิสซาฉลองวัดครั้งสุดท้ายภายในวัดหลังที่สอง โดยพระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2556 (ค.ศ.2013) สำหรับวัดหลังที่สาม ได้รับการออกแบบโดยคุณมาโนช หนึ่งในสัตบุรุษของวัด

 

วัดพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ศรีราชา ปัจจุบันหลังที่ 3

           สถาปนิก ได้แนวความคิดในการออกแบบ จากความในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ที่ว่าเต็นท์หรือพลับพลาเป็นที่ประทับของพระเจ้า เป็นแรงบันดาลใจให้สถาปนิกได้รังสรรค์รูปแบบศิลป์สถาปัตยกรรม ในแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modern Architecture) ได้อย่างลงตัว สื่อถึงความหมายตามความในพระคัมภีร์ อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยด้านพิธีกรรมและศิลปะในพิธีกรรมของสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 เป็นอาคารศักดิ์สิทธิ์ เป็น สถาปัตยกรรมคุณค่าของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยอีกหลังหนึ่ง

 

ภาพจากจินตนาการที่เกิดจาก แนวความคิดในการออกแบบ

จาก "หนังสือโอกาสเปิด เสกวัดและฉลองชุมชนแห่งความเชื่อศรีราชา

วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน ค.ศ.2017"

 

           โบสถ์หลังนี้เป็นโบสถ์หลังที่ 3 ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 4 ปี ด้วยงบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นมากกว่า 166 ล้านบาท ได้มีพิธีเสกวัดและเปิดวัดโดย พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี ประมุขสังฆมณฑลจันทบุรีเป็นประธาน ร่วมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและคริสตชนจำนวนมาก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2560 (ค.ศ.2017)

 

พิธีเสกวัดและเปิดวัดโดย พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี ประมุขสังฆมณฑลจันทบุรี

17 มิถุนายน ค.ศ.2017 (พ.ศ.2560)

 

อ่านเรื่องราว

"บทบาทของโบสถ์ในปัจจุบัน"

และ "บทบาทงาน Stella Maris"

ต่อที่เมนูด้านล่างนี้

 

 

ขอขอบคุณผู้ให้สัมภาษณ์

บาทหลวงเอกภพ ผลมูล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ศรีราชา

  

บรรณาธิการ               -   สมวุฒิ   สุนทรวิจิตร 

ภาพถ่าย / เรียบเรียง   -   รัชกูร   อานามนารถ

 

แหล่งอ้างอิงภาพและข้อมูล

- หนังสืออนุสรณ์วัดหลังที่ 2 วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า ศรีราชา (1964 - 2013)

- หนังสือซ้องสดุดีพระหฤทัยพระเยซูเจ้า โอกาสเปิด เสกวัดและฉลองชุมชนแห่งความเชื่อ ศรีราชา

วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน ค.ศ.2017

- หนังสืออนุสรณ์ 50 ปี โรงเรียนดาราสมุทร ศรีราชา ชลบุรี

- หนังสือ 6 ทศวรรษ ดาราสมุทร

- หอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ : สามเณราลัยพระหฤทัย ศรีราชา 

https://catholichaab.com/main/index.php/1/2015-10-19-09-39-42/568-2015-10-19-09-39-13

- หอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ : บ้านเณรเล็กพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า บางช้าง (บางนกแขวก)

https://catholichaab.com/main/index.php/1/2015-10-20-02-12-34/2015-10-20-02-21-39/609-2015-10-20-03-25-30

- เรื่องเล่าบ้านเณรในอดีต โอกาสฉลอง 75 ปี บ้านเณรพระหฤทัย ศรีราชา

https://www.cordisjesu.org/75Jubilee/Story/Statue/Statue.html

- ประวัติสามเณราลัยพระหฤทัย ศรีราชา

https://www.cordisjesu.org/History/History.html

 

 

Visitors: 79,226