ตำนานปาท่องโก๋ศรีราชา ตอนที่ 2

 

ตำนานปาท่องโก๋ศรีราชา ตอนที่ 2

  ร้านขนมปังเย็น “ตั้งม่งเส็ง”

 

 

        เจ๊กพัง แซ่ตั้ง เป็นชาวจีนแต้จิ๋ว จากเมืองโผวเล้ง เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2444 เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2522 ขณะอายุได้ 78 ปี เดินทางมาเมืองไทยตั้งแต่ยังหนุ่ม ตรงกับช่วงสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โดยมาทำงานเป็นจับกังที่โรงไม้บริษัทศรีมหาราชา ตั้งแต่ช่วงที่ท่านเจ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ ส่วนอาม่าชื่อนางใช้ เป็นชาวจีนแต้จิ๋วเช่นกัน เสียไปเมื่อ พ.ศ. 2502 เจ๊กพังกับแม่พบกันที่เมืองไทยแต่กลับไปแต่งงานกันที่เมืองจีน หลังจากแต่งงานแล้วเจ๊กพังก็กลับมาเมืองไทยคนเดียว พอเกิดสงครามจึงได้ไปรับแม่มาอยู่ด้วย พี่ชายเลยได้เกิดที่เมืองไทยแต่กลับไปอยู่ที่เมืองจีนตอนที่อายุประมาณ 11 ปี

            

 

        ร้านกาแฟของพ่อตั้งอยู่ที่ร้านดวงเดือนพานิชเก่า (เป็นเรือนไม้ห้องแถวหน้าโรงแรมสามชัย ริมถนนเจิมจอมพล – บก.) ต่อมาย้ายไปขายกาแฟโบราณ ทำขนมปัง และปาท่องโก๋ที่ตลาดสด (บริเวณธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดศรีราชาปัจจุบัน – บก.) อยู่หลายปี ส่วนแม่ก็ย้ายมาเลี้ยงหมูตรงซอยโรงแรมสามชัย กระทั่งเกิดไฟไหม้ตั้งแต่ธนาคารออมสินเก่า (หัวมุมสี่แยกธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดศรีราชา – บก.) ซึ่งมีสาเหตุมาจากถังน้ำมันบริเวณบ้านไม้ของบริษัทศรีมหาราชา (ในอดีต) ระเบิด ไฟลามมาจนถึงตรงร้านแว่นท็อปเจริญ (ในปัจจุบัน) ซึ่งบ้านที่อยู่ตอนนั้นเป็นไม้ เลยไหม้ไปด้วย จึงได้ย้ายไปขายกาแฟตรงหลังบ้านเจ๊กเผ่า และทำเตาขนมปังตรงข้างวัด บริเวณที่เช่ารับฝากรถอยู่หลายปีหลังจากนั้นรื้อออกให้พี่ชาย (เจ๊กมัก) ทำโรงกาแฟ แต่ถูกร้องเรียนไม่ให้คั่วกาแฟ ตอนหลังไปซื้อที่ดินแถวโรงเจ ปลูกบ้าน ทำกาแฟคั่ว ทำขนมปังอยุ่สักพักก็เกิดสงคราม ทำให้ขาดแคลนแป้งจึงเปลี่ยนไปซื้อเม็ดบัวมาใส่น้ำแข็ง ใส่นมขาย ราคาถ้วยละ 5 สตางค์ ช่วงนั้นขายดีมาก

        

 

        กิจการค้าขายดั้งเดิมที่ทำ คือ เริ่มทอดปาท่องโก๋ตอนย้ายไปอยู่แสงชัย (ปัจจุบันคือร้านขายแว่นตา นาฬิกา ตรงข้ามร้านทองแม่กิมชวย – บก.) เป็นเจ้าแรกที่ทำขายในศรีราชา สูตรคล้ายๆ กับของ “เจ๊กบักกวย” ส่วนของฮะง้วนมาขายทีหลังเป็นคนละสูตรกัน ทำตอนมาอยู่ตรงแสงชัย ทำอยุ่ได้ไม่นานเพราะยุ่งยากและต้องตื่นแต่เช้า ซึ่งการทำปาท่องโก๋ต้องตื่นมานวดแป้งประมาณตี 2-3 ทอดเตาถ่านใช้ฟืน ขายตอนเช้าจนถึง 8 โมง ราคาตัวละ 1 สตางค์ ตอนหยุดขายก็ตอนราคา 2 สตางค์แล้ว และยังขายส่งด้วย ส่วนกาแฟโบราณ (โกปี้) ถ้วยละ 3 สตางค์ ขายทั้งวัน ซึ่งเม็ดกาแฟต้องส่งมาทางเรือจากกรุงเทพฯ แล้วต้องเอามาคั่วเตาฟืนบดเองด้วยมือหมุน ขายอยู่ 10 กว่าปีเกิดไฟไหม้ จึงเลิกขายเพราะไม่มีเวลา หลังจากเจ็กพังหยุดขายก็เหลือมีขายอยู่ 3 เจ้า คือ เฮียลิ้ม เฮียฮะง้วน และเจ๊กบักกวย

        

 

        ส่วนการทำขนมปังปอนด์ แม่เป็นคนไปเรียนทำขนม โดยจ้างลูกชายเจ๊กไหหลำสอน ใช้ข้าวเจ้าทำโดยตั้งเชื้อตอนเย็น 1 ถัง หมักแป้ง นวดแป้งให้ฟูตอนตี 2 – 3 แล้วพักไว้ ตอนเช้าตื่นขึ้นมาปั้นขนมปังปอนด์ใหญ่ – เล็ก ตามขนาด ใช้เตาฟืนก่อด้วยอิฐ โดยใส่ฟืนเผาให้ร้อน นำฟืนออก จึงนำแป้งขนมปังไปอบ เป็นขนมปังเย็นเจ้าแรกและขึ้นชื่อในศรีราชา ทำตั้งแต่อยู่แสงชัย เลิกทำตอนเกิดสงคราม ตอนหลังย้ายจากแสงชัย (ที่เช่าขึ้นราคาทุกปี) มาเปิดร้านอยู่ในที่ปัจจุบันที่ให้คนอื่นเช่าในราคาถูก จึงย้ายมาอยู่ตึกของตัวเอง ซึ่งได้เพิ่มขนมปังเนย และขนมปังสังขยา ขนมปังมีอีกเจ้าหนึ่งที่ทำก่อนเรา อยู่ตรงตั้งเล่งสุน (ร้านอาหารเจปัจจุบัน – บก.) ตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่สองเจ้าของร้านต่อต้านพวกญี่ปุ่น ก็เขียนด่าญี่ปุ่นเลยถูกเอาไปขังตรงซีไซด์ (แหลมฟาน) ห้องสุดท้าย 2 วัน พอถูกปล่อยออกมาก็ขายกิจการและอพยพไปอยู่เมืองจีน 

 

 

    ทางร้านเลิกขายปาท่องโก๋ตั้งแต่ปี 2495 ส่วนกิจการคั่วกาแฟให้ “ใหญ่” (หลานชาย) เป็นคนรับช่วงคั่วกาแฟส่งลูกค้าในศรีราชา รวมทั้งขายส่งด้วยชื่อ “ตั้งจุ่งฮวด” เป็นโรงงานกาแฟโบราณตราขวานคู่ ตั้งอยู่เลขที่ 102/7 ถนนสุรศักดิ์สงวน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โทร.038-311640 ส่วนกิจการที่สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้คือ ร้านขนมปังเย็น (ตั้งม่งเส็ง) เป็นที่ขึ้นชื่อของนักเรียนอัสสัมฯ และชาวศรีราชา

           

 

 

 ผู้ให้สัมภาษณ์ คือ คุณสมใจ มัครากุล (เซี่ยมเจ็ง) อายุ 78 ปี เกิดปีมะแม พ.ศ. 2474

เป็นลูกคนที่ 2 ในพี่น้อง 5 คน ทุกคนเกิดที่เมืองไทย

 

 

Visitors: 63,910