ตำนานปาท่องโก๋ศรีราชา ตอนที่ 5

 

ตำนานปาท่องโก๋ศรีราชา ตอนที่ 5

สัมภาษณ์ :    คุณบุญลิ้ม (เฮียลิ้ม) ประสานพานิช

ภรรยาชื่อ คุณเสาวนีย์ มีบุตรรวม 3 คน (เสียชีวิต 1 คน)

 

        คุณปู่ทวดหรือเหล่าก๋งมาจากเมืองจีน ตั้งแต่รัชสมัย ร.4 เป็นจีนแต้จิ๋ว นามสกุลแซ่ตั้ง เป็นต้นตระกูลประสานพานิช (เปลี่ยนในภายหลัง) มีลูกชาย 7 คน ส่วนก๋ง 3 เกิดที่เมื่องไทยชื่อ วุฒิ แซ่ตั้ง อาม่าชื่อมุ่ยซ้ง ต่อมาอาก๋งไปเรียนหนังสือที่เมืองจีน เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทยก็ปักหลักอยู่ที่ศรีราชาไปทำโรงงานมันสำปะหลังอยู่ที่บ้านนาพร้าว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาเปิดร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นร้านแรกของศรีราชา ชื่อร้าน “ตั้งซุ่ยหลี” เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ตรงหัวมุมป้อมตำรวจแยกโรงแรมสามชัยในปัจจุบัน

 

        คุณพ่อของคุณลิ้มชื่อ อนันต์ คุณแม่ชื่อ เช็ง แซ่เตียว มีลูก 8 คน คุณลิ้มเป็นบุตรคนที่ 3 (จบจากโรงเรียนดาราสมุทรศรีราชา รุ่นที่ 5) คุณพ่อไปค้าขายที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อปี พ.ศ. 2507 อาก๋งแบ่งห้องที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เฮียลิ้ม 1 ห้อง เพื่อเปิดร้านกาแฟ

 

 

        แรกๆ เฮียลิ้มรับปาท่องโก๋จาก 3 เจ้า คือ เจ๊กบักกวย ร้านฮะง้วน ร้านเฮียเพ้ง ขณะนั้นกิจการร้านกาแฟเจริญมาก จนบางครั้งปาท่องโก๋ที่รับมาไม่พอบริการลูกค้า ในปี พ.ศ. 2519 เฮียลิ้มจึงคิดว่าจะทดลองทอดขายเองด้วย ก็ใช้สูตรของลุงขาวไขอาชีพและสูตรจากเพื่อนที่เคยทำขนมถังแตกรวมทั้งคนส่งแป้งสาลีร้านเทียนเซ็งที่ชลบุรีมาปรับปรุงสูตร ซึ่งก็อร่อย ขายดี แต่ก็ยังไม่ได้กำไร ตอนนั้นใช้เชื้อขนมปัง แป้งตราอินเดียแดง โดยต้องนวดแป้งเอง ทดสอบส่วนผสมเอง จนได้ที่เป็นสูตรเฮียลิ้มที่ไม่ซ้ำใคร คือ กรอบ มัน ใหญ่ อร่อยเต็มคำ ซึ่งก็ใช้เทคนิคความชำนาญและเวลาเป็นปี ทั้งนี้การนวดแป้งขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย เช่น หน้าหนาว นวดประมาณ 8-9 โมงกลางคืน หน้าร้านนวดประมาณ เที่ยงคืน – ตี 1 ทอดขายตอนตี 3-4 การทอดตั้งให้ได้จังหวะจดบันทึกทุกวันจนกระทั่งทำได้ที่ เร่งทำไม่ได้ จะไม่ได้กำไร

ส่วนผสมหลัก : แป้งสาลีใช้เกรด A ซึ่งสมัยนั้น คือ ตรามังกรแดง ตราเสือ และคนเชิดมังกร ซื้อจากร้านเทียนเซ้งชลบุรี

 

เฮียลิ้ม ฉีกแนวการทำปาท่องโก๋ในขณะนั้นอยู่ 4 ประการ คือ

1. ใช้เครื่องนวดและน้ำแข็งแทนมือนวด

2. ใช้เตาแก๊สแทนเตาถ่าน โดยควบคุมอุณหภูมิ

3. สั่งทำกระทะขนาดใหญ่ 120 ซม. เป็นเจ้าแรก (ทำให้ทอดได้มากกว่าปกติ)

4. เป็นเจ้าแรกที่ปรับราคาจาก 1 สลึง เป็น 2 สลึง และ 1 บาท ในสมัยนั้น

 

        ปี พ.ศ. 2531 ก็เลิกขายกาแฟและปาท่องโก๋ เพราะลูกสาวคนโตเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทำให้หมดกำลังใจ ทั้งๆที่เตรียมจะทำปาท่องโก๋ไป่กูเต้ (แท่งยาวๆ) แบบสิงคโปร์ จึงไปเป็นเซลล์แมนขายเคมีภัณฑ์ ทำท่าเรือ ปัจจุบันคุณบุญลิ้มมีกิจการถมที่ เป็นผู้จัดการบริษัทเกี่ยวกับรถขนส่งทั่วไป – บริการเรือลากจูงเรือเข้าท่า

 

 

 

 

Visitors: 63,867