ช่วงปิดกิจการและขายที่ดิน
ช่วงปิดกิจการและขายที่ดิน
ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ บริษัทศรีมหาราชา จำกัด ได้ปิดกิจการเนื่องจากประสบกับภาวะขาดทุนถึง ๒๕๐ ล้านบาท และได้ประกาศขายกิจการทั้งหมดในราคา ๔๐๐ ล้านบาท ในที่สุดบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ขอโอนกิจการไปดำเนินการต่อ โดยรวมทุนกับบริษัทไต้หวัน และ ฮ่องกง เปิดเป็นบริษัทใหม่ ชื่อ “บริษัท ไทยวนภัณฑ์ จำกัด” โดยผนวกโรงงานต่างๆของบริษัทศรีมหาราชา เข้าไปดำเนินการในนามบริษัทใหม่ทั้งหมด เว้นแต่เพียงโรงงานที่นอนสายรุ้ง ที่ยังขึ้นอยู่กับบริษัทศรีมหาราชา
บริษัทไทยวนภัณฑ์ จำกัดเข้ามาดำเนินการผลิตแผ่นไม้อัดจากยางพารา โดยรับสมัครพนักงานเก่าของบริษัทศรีมหาราชา เข้ามาทำงานประมาณ ๑๐๐ คน
หลังจากบริษัทไทยวนภัณฑ์ เข้ามาบริหารงานได้ระยะหนึ่งหนี้สินที่ขาดทุนสะสมเป็นปัญหาหนักจนยากที่จะแก้ไข ในที่สุด สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงจำเป็นต้องตัดสินใจขายที่ดินของบริษัทศรีมหาราชาทั้งหมดซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมืองศรีราชาประมาณ ๑๔๐ ไร่ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้สะสม ประมาณ ๒๐๐ ล้านบาท
ที่ดินผืนใหญ่กลางใจเมือง ของบริษัทศรีมหาราชา ถูกขายให้ "เสี่ยฮวด" (นายพิพัฒน์ โรจน์วานิชชากร) ในราคา ๔๓๖ ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์การค้า ศรีราชาคอมเพล็กซ์ ขณะที่โครงการเพิ่งเริ่ม "เสี่ยฮวด" ก็ถูกยิงตาย ที่ดินแปลงนี้จึงถูกขายให้ นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๓๒ พัฒนาต่อในนามโครงการศรีราชานคร จนเจริญเติบโตเป็นทำเลทองของศรีราชา มาจนกระทั่งทุกวันนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
- จากประมาณปีพ.ศ. ๒๕๑๐ เป็นต้นมา บริษัทขาดทุนมาโดยตลอด ในปีพ.ศ. ๒๕๒๗ บริษัทศรีมหาราชา จำกัด ปลดคนงานออกคราวเดียวถึง ๕๙๒ คน
- บริษัทไทยวนภัณฑ์ ดำเนินการกิจการได้เพียงระยะหนึ่ง ก็ย้ายโรงงานไปอยู่ที่สมุทรปราการ